มาฝึกงานวันที่ 2 และ เอิกกกกกกกกกก
ก็ดี เมื่อนวานนี้ตื่นเต้นมาก อายๆๆๆ ยังไงก็ไม่รู้
อืม เริ่มเลยละกาน มาฝึกงานที่ ศูนย์บริการเทคโนโลยีสาธรณสุขและสิ่งแว้ดล้อม นะ
มาวันแรกนะหรอ อิอิอิ
มาตั้งแต่ 7.30 5555555
ที่นี้ยังไม่มีใครมาทำงานเลย
พวกพี่เค้ามาทำงานกันตอน 12.00 ก็มี บางคนก็มาตอนบ่าย
โอ้ย ทั้งวันไม่ได้ทำไรเลย ทำตอนบ่าย 2 นี้ละมั้ง
ทำโปรแกรม Google Satellite Maps Retriever
เป็นโปรแกรมเกียวกับแผนที่ อะ พี่เค้าสั้งงานไว้ เราก็ทำ แล้วก็เลิกงานกลับบ้านนนนนนน
ตอน 17.30 น โอ้ย กว่าจะได้กลับ
แต่พวกพี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เค้าที่นี้ทำงาน แบบว่าตั้งใจมาก เลย อืม
นี้ละมันคงเป็นการเริมต้นวันแรกที่ดีของเราก็ได้
จุ๊ จุ๊ จุ๊ จุ๊ จุ๊ จุ๊ จุ๊ จุ๊ จุ๊ จุ๊ จุ๊
ว่างๆๆ จะมาพิมพ์ใหม่ เด้อคร้า
วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553
วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553
สรุป
จากหนังสือเรื่อง ธรรมมะสบายใจ
หนังสือเล่นนี้ผู้เขียนได้บรรยายถึงเคล็บลับของความสุขที่ได้จากลมหายใจของเรา พร้อมทั้งเปลี่ยนวิธีคิดปรับทัศนคติ ให้มองโลกในมุมมองใหม่ ค้นพบความสุขที่แท้จริง และทำชีวิตประจำวันทำหน้าที่ของตนเองงานของตนเองควบคู่ไปกับความผ่อนคลายสบายใจ และบทความทุกบทในเหนังสือล่นนี้ก็ล่วนแต่มีจุดประสงค์เหมือนกัน คือ อ่านแล้วเราสบายใจเราคิดตามทำตามหลักก็มีความสุขแล้ว ชีวิตเราจะมีความสุขก็ต่อเมือ เรารู้และเราปฎิบัติและนอกจากจะทำให้เราสามารถปฎิบัติตามได้จริงแล้วเรายังสามารถนำมาเผยแพร่เพื่อให้คนอื่นได้รู้ เช่น เราอ่านแล้วเราสามารถสอนคนอื่นให้ปฏิบัติตามที่เราอ่านได้ หรือไม่ เราก็สามารถนำหนังสือที่เราอ่านจบแล้วไปให้ผู้อื่นที่สนใจอ่านตอได้อีก นับว่าหนังสือเล่นนี้มีประโยชน์มาก ดิฉันชอบบทความหลายเรื่องในหนังสือเล่มนี้บางบทความสอนให้เรารู้จักการให้ ก็คือ การเป็นผู้ให้มากกว่าการเป็นผู้รับ การให้โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ และดิฉันยังขอเสนอบทความบางบทที่นำมาจากการอ่านหนังสือเล่มนี้มาเขียนเพื่อให้ทุกคนที่อ่านบทความของดิฉันได้คิดและอาจจะมองโลกในอีกแง่มุมหนึงในชีวิตเลยก็ได้
ขอเสนอบทความที่ชอบอยู่บทความหนึ่ง ซึ่งทบความเรื่องนี้เป็นบทความเรื่องที่ สอง ภาค 1 ลายแทงความสุข ชื่อเรื่องว่าความสุขที่แท้จริง ดิฉันชอบสิงที่ผู้เขียนต้องการสื่อออกมาว่า บางที่ ความสุขที่แท้จริงอาจไม่ใช้ทรัพสินเงินทอกก็ได้ ขอเล่าบทความนี้พอคล่าวๆ เรื่องคือ ชายแก่คนหนึ่งแต่งตัวมอซอ เสื่อผ้าเก่าๆ นั้งตกปลา อยู่ที่ริมบึงแห่งหนึ่ง ด้วยสีหน้าที่เบิกบาน อารมณ์ดี นั้งตกปลามองแมลงปอที่มันหยอกล้อเล่นกันอยู่เหนือผิวน้ำ และร้องเพลงผิวปากด้วยความสุขอย่างนี้เป็นประจำทุกวัน ภบค่ำของวันหนึ่ง มี มหาเศรษฐี คนหนึ่งมาพร้อมกับ คนขับรถ มานั้งตกปลาอยู่ปริเวณไกล้กับเขา เขามาองชายแก่มองแล้วยิ้มให้กับเศรษฐีคนนั้น เขาก็เลยถามชายแก่นว่า “ตกปลามานานหรือยัง”เศรษฐีถาม ชายแก่ตอบว่า “ทั้งชีวีตครับ” แล้วถามต่อว่า “เป็นไงบ่างละรายได้ดีไหม” ชายแก่ตอบว่า “มีความสุขมากครับ” เศรษฐี ถึงกับ งง กับคำตอบของชายแก่ ชายแก่จึงบอกว่า “ขอโทษครับ ผมตกเบ็ดเพื่อหาปลาครับ ไม่ใช้หาเงิน” ชายแก่ตอบพร้อมกับพูดต่ออีกว่า เอาไปทำไมครับเงิน เศรษฐีตอบว่า “คนเรานี้หนาถ้ามีเงินมากๆ ก็มีความสุกนะสิ อยากได้อะไรก็ได้อยากชื่ออะไรก็ชื่อ” ชายแก่ บอกว่าผมไม่เห็นจำเป็นต้องมีเงินเลยนิครับ แต่ผมก็ยังมีความสุข
และความสุขขอมผมคือการได้นั้งตกปลาอยู่อย่างนี่ทุกวัน คนจนตอบด้วยความยินดี หน้าตาสดใส ล้วเขาก็ถามต่อว่า แล้วคุณละตกปลาเพื่ออะไร เศรษฐี ตอบว่า ผมก็อยากมีความสุขบ่างนะสิ แล้วเศรษฐี ก็นั้งเงียบอยู่พักใหญ่เพราะเขากำลังคิดถึงแนวคิดแปลกๆๆ และไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อนแบบที่ชายแก่คนนี้พูด
จากนั้นชายแก่กับเศรษฐีก็กลายเป็นเพื่อกัน
แนคคิดที่ได้จากเรื่องนี้ดิฉันคิดว่าการที่เราจะมีความสุขที่แท้จริง บางที่มันอาจจะไม่ได้มาจากทรัพสินเงินทองมากมายแต่มันเป็นเพียงความสุขที่เกิดจาก ใจของเราต่างหายละที่สำคัญที่สุด
แล้วหลังจากอ่านบทความเรื่องนี้จบก็อ่านมาเรื่อยๆๆ หยาลเรื่อที่ชอบแล้วก็ประทับใจมากจะขอยกตัวอย่างบทความอีกบทความหนึ่ง ชื่อเรื่อว่า ด้วยความรักและการแบ่งปันอันแสนสุข เรื่อนี้เป็นเรื่อเกียวกับภิกษุและภิกษุณีจะขอเล่าตอนหนึ่นที่ภิกษุรูปหนึ่งได้เล่าถึง เรื่องประมาณว่า นิทาน ก็ได้ เนื่อเรื่อของเรื่อนี้มีอยู่ว่า
มนุษย์คนหนึ่งเป็นเพศชาย ได้รับอภิศิษย์ ไปดูงานที่ แดนนรกและแดนสวรรค์ โดยตอนที่เขาไปที่แดนนรกนั้น มียมทูต อาสาเป็นไกธ์ นำทางให้เขา เขาพบว่าแดนนกรนี้มีแต่ความน่ากลัว วังเวง และมี สัตว์นรกมากมาย
เขาเดินดูไปเรื่อย จนพบกับสัตว์นรก ทุกตัวแต่ เขาสังเกตเห็นว่าสัตว์นกรช่างผอมโซเหลือเกิน เขาก็ได้แต่สงสัยแล้วก็พบกับคำตอบ ว่าทำไม สัตว์นรก พวกนี้ถึงผอมโซ กันนัก เขาเห็นพวกสัตว์นรกพยามที่จะกินอาหารที่มีอยู่มากมายแต่พวกเขาไม่ส่ามารถกินอาหารนั้นได้ เพราะที่มือของสัตว์นรกเหล่านั้น มีช้อนที่ยาวมาก ยาวหลายเมตร มัดติดมือพวกเขาอยู่เขาสามารถตักอาหารที่มีอยู่มากมายนั้น ได้แต่ ไม่สามารถนำอาหารเข้าปากได้เพราะช้อนมันยาวเกินไป พวกเขาจึงได้แต่นั้นงมองอาหารพวกนั้นโดยที่ไม่สามารถกินได้เลย จากนั้นชายหนุ่มจึง ขอไปดูดินแดนสวรรค์ เขาแปลกใจมากที่ดินแดนสวรรค์มีอาหารให้กินมากมายเหมือนแดนนรก แต่ มือขางเทวดานางฟ้าทั้งหลายก็มีช้อนที่ยาวเหมือนกัน และเมือถึงเวลาอาหารของพวกเขา เทวดาละนางฟ้ากินได้ โดยใช้วิธีการแบ่ออกเป็น 2 ฝ่าย แล้วป้อนอาหารกันตอนสุดท้ายของเรื่องนี้ ได้บอกอีกว่า
“อย่าถามว่าชีวิตนี้ใครจะให้อะไรแก่เธอ”
“แต่จงถามว่าชีวิตนี้เธอจะให้อะไรกับใคร”
นอกจาก 2บทความที่ยกตัวอย่ามานี้แล้วก็ไม่ใช้ ว่าบทความอื่นจะไม่เป็นที่น่าสนใจแต่ ขอนำเสนอแค่ 2 บทความนี้
แต่สรุปแล้วก็คือความสุขที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ใจเราต่างหากไม่ใช้สิ่งของภายนอกกายไม่ใช้ของมีค่าไดๆ
หนังสือเล่นนี้ผู้เขียนได้บรรยายถึงเคล็บลับของความสุขที่ได้จากลมหายใจของเรา พร้อมทั้งเปลี่ยนวิธีคิดปรับทัศนคติ ให้มองโลกในมุมมองใหม่ ค้นพบความสุขที่แท้จริง และทำชีวิตประจำวันทำหน้าที่ของตนเองงานของตนเองควบคู่ไปกับความผ่อนคลายสบายใจ และบทความทุกบทในเหนังสือล่นนี้ก็ล่วนแต่มีจุดประสงค์เหมือนกัน คือ อ่านแล้วเราสบายใจเราคิดตามทำตามหลักก็มีความสุขแล้ว ชีวิตเราจะมีความสุขก็ต่อเมือ เรารู้และเราปฎิบัติและนอกจากจะทำให้เราสามารถปฎิบัติตามได้จริงแล้วเรายังสามารถนำมาเผยแพร่เพื่อให้คนอื่นได้รู้ เช่น เราอ่านแล้วเราสามารถสอนคนอื่นให้ปฏิบัติตามที่เราอ่านได้ หรือไม่ เราก็สามารถนำหนังสือที่เราอ่านจบแล้วไปให้ผู้อื่นที่สนใจอ่านตอได้อีก นับว่าหนังสือเล่นนี้มีประโยชน์มาก ดิฉันชอบบทความหลายเรื่องในหนังสือเล่มนี้บางบทความสอนให้เรารู้จักการให้ ก็คือ การเป็นผู้ให้มากกว่าการเป็นผู้รับ การให้โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ และดิฉันยังขอเสนอบทความบางบทที่นำมาจากการอ่านหนังสือเล่มนี้มาเขียนเพื่อให้ทุกคนที่อ่านบทความของดิฉันได้คิดและอาจจะมองโลกในอีกแง่มุมหนึงในชีวิตเลยก็ได้
ขอเสนอบทความที่ชอบอยู่บทความหนึ่ง ซึ่งทบความเรื่องนี้เป็นบทความเรื่องที่ สอง ภาค 1 ลายแทงความสุข ชื่อเรื่องว่าความสุขที่แท้จริง ดิฉันชอบสิงที่ผู้เขียนต้องการสื่อออกมาว่า บางที่ ความสุขที่แท้จริงอาจไม่ใช้ทรัพสินเงินทอกก็ได้ ขอเล่าบทความนี้พอคล่าวๆ เรื่องคือ ชายแก่คนหนึ่งแต่งตัวมอซอ เสื่อผ้าเก่าๆ นั้งตกปลา อยู่ที่ริมบึงแห่งหนึ่ง ด้วยสีหน้าที่เบิกบาน อารมณ์ดี นั้งตกปลามองแมลงปอที่มันหยอกล้อเล่นกันอยู่เหนือผิวน้ำ และร้องเพลงผิวปากด้วยความสุขอย่างนี้เป็นประจำทุกวัน ภบค่ำของวันหนึ่ง มี มหาเศรษฐี คนหนึ่งมาพร้อมกับ คนขับรถ มานั้งตกปลาอยู่ปริเวณไกล้กับเขา เขามาองชายแก่มองแล้วยิ้มให้กับเศรษฐีคนนั้น เขาก็เลยถามชายแก่นว่า “ตกปลามานานหรือยัง”เศรษฐีถาม ชายแก่ตอบว่า “ทั้งชีวีตครับ” แล้วถามต่อว่า “เป็นไงบ่างละรายได้ดีไหม” ชายแก่ตอบว่า “มีความสุขมากครับ” เศรษฐี ถึงกับ งง กับคำตอบของชายแก่ ชายแก่จึงบอกว่า “ขอโทษครับ ผมตกเบ็ดเพื่อหาปลาครับ ไม่ใช้หาเงิน” ชายแก่ตอบพร้อมกับพูดต่ออีกว่า เอาไปทำไมครับเงิน เศรษฐีตอบว่า “คนเรานี้หนาถ้ามีเงินมากๆ ก็มีความสุกนะสิ อยากได้อะไรก็ได้อยากชื่ออะไรก็ชื่อ” ชายแก่ บอกว่าผมไม่เห็นจำเป็นต้องมีเงินเลยนิครับ แต่ผมก็ยังมีความสุข
และความสุขขอมผมคือการได้นั้งตกปลาอยู่อย่างนี่ทุกวัน คนจนตอบด้วยความยินดี หน้าตาสดใส ล้วเขาก็ถามต่อว่า แล้วคุณละตกปลาเพื่ออะไร เศรษฐี ตอบว่า ผมก็อยากมีความสุขบ่างนะสิ แล้วเศรษฐี ก็นั้งเงียบอยู่พักใหญ่เพราะเขากำลังคิดถึงแนวคิดแปลกๆๆ และไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อนแบบที่ชายแก่คนนี้พูด
จากนั้นชายแก่กับเศรษฐีก็กลายเป็นเพื่อกัน
แนคคิดที่ได้จากเรื่องนี้ดิฉันคิดว่าการที่เราจะมีความสุขที่แท้จริง บางที่มันอาจจะไม่ได้มาจากทรัพสินเงินทองมากมายแต่มันเป็นเพียงความสุขที่เกิดจาก ใจของเราต่างหายละที่สำคัญที่สุด
แล้วหลังจากอ่านบทความเรื่องนี้จบก็อ่านมาเรื่อยๆๆ หยาลเรื่อที่ชอบแล้วก็ประทับใจมากจะขอยกตัวอย่างบทความอีกบทความหนึ่ง ชื่อเรื่อว่า ด้วยความรักและการแบ่งปันอันแสนสุข เรื่อนี้เป็นเรื่อเกียวกับภิกษุและภิกษุณีจะขอเล่าตอนหนึ่นที่ภิกษุรูปหนึ่งได้เล่าถึง เรื่องประมาณว่า นิทาน ก็ได้ เนื่อเรื่อของเรื่อนี้มีอยู่ว่า
มนุษย์คนหนึ่งเป็นเพศชาย ได้รับอภิศิษย์ ไปดูงานที่ แดนนรกและแดนสวรรค์ โดยตอนที่เขาไปที่แดนนรกนั้น มียมทูต อาสาเป็นไกธ์ นำทางให้เขา เขาพบว่าแดนนกรนี้มีแต่ความน่ากลัว วังเวง และมี สัตว์นรกมากมาย
เขาเดินดูไปเรื่อย จนพบกับสัตว์นรก ทุกตัวแต่ เขาสังเกตเห็นว่าสัตว์นกรช่างผอมโซเหลือเกิน เขาก็ได้แต่สงสัยแล้วก็พบกับคำตอบ ว่าทำไม สัตว์นรก พวกนี้ถึงผอมโซ กันนัก เขาเห็นพวกสัตว์นรกพยามที่จะกินอาหารที่มีอยู่มากมายแต่พวกเขาไม่ส่ามารถกินอาหารนั้นได้ เพราะที่มือของสัตว์นรกเหล่านั้น มีช้อนที่ยาวมาก ยาวหลายเมตร มัดติดมือพวกเขาอยู่เขาสามารถตักอาหารที่มีอยู่มากมายนั้น ได้แต่ ไม่สามารถนำอาหารเข้าปากได้เพราะช้อนมันยาวเกินไป พวกเขาจึงได้แต่นั้นงมองอาหารพวกนั้นโดยที่ไม่สามารถกินได้เลย จากนั้นชายหนุ่มจึง ขอไปดูดินแดนสวรรค์ เขาแปลกใจมากที่ดินแดนสวรรค์มีอาหารให้กินมากมายเหมือนแดนนรก แต่ มือขางเทวดานางฟ้าทั้งหลายก็มีช้อนที่ยาวเหมือนกัน และเมือถึงเวลาอาหารของพวกเขา เทวดาละนางฟ้ากินได้ โดยใช้วิธีการแบ่ออกเป็น 2 ฝ่าย แล้วป้อนอาหารกันตอนสุดท้ายของเรื่องนี้ ได้บอกอีกว่า
“อย่าถามว่าชีวิตนี้ใครจะให้อะไรแก่เธอ”
“แต่จงถามว่าชีวิตนี้เธอจะให้อะไรกับใคร”
นอกจาก 2บทความที่ยกตัวอย่ามานี้แล้วก็ไม่ใช้ ว่าบทความอื่นจะไม่เป็นที่น่าสนใจแต่ ขอนำเสนอแค่ 2 บทความนี้
แต่สรุปแล้วก็คือความสุขที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ใจเราต่างหากไม่ใช้สิ่งของภายนอกกายไม่ใช้ของมีค่าไดๆ
วันพุธที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2553
งานที่เพื่อน7 คนนำเสนอ
สร้างจุดเด่นให้กับภาพ
1. File>open เลือกรูปที่ต้องการ
2. Ctrl+ J เพิ่ม Layer ปลดล็อค Backdroud โดยดับเบิ้ลคลิก
3. คลิก Layer ที่1 Image>Adjustments>Desaturate เป็นขาว-ดำ
4. เลือกแถบเครื่องมือ Magnetic Lasso Tool ครอบจุดที่เราต้องการแล้วกด Delete
5. Ctrl+D รวม Layer Ctrl+E เพื่อรวม เลเยอ
6. บันทึกค่ะ
การปรับรูปร่างให้ดูดีขึ้น
1. Fill>open เลือกรูปที่เราต้องการ แล้วคลิก ok
2. Filter>Liquify bเลือก show Mesh
3. คลิกเครื่องมือ Forward Warp Tool (W)
4. ถ้าวงกลมใหญ่ให้ปรับที่ Brush Size
5. แล้วนำมาวางหรือเลื่อนส่วนที่เราต้องการทำให้เล็กหรือใหญ่กว่าเดิม
6. ปรับส่วนเกินตามที่เราต้องการ
7. บันทึกขอมูลที่เราต้องการ โดยถ้าเราต้องการเก็บรูปนี้ไว้แก้ไขให้บันทึกเป็น ไฟล์นามสกุล .psd แต่ถ้าเราจะ บันทึกเป็นไฟล์รูปภาพให้บันทึกเป็นไฟล์ .jpeg
ภาพถ่ายเป็นลายเส้น
1. Fill>open เลือกรูปที่เราต้องการ แล้วคลิก ok
2. Ctrl+J แล้ว Image>Adjustment>Invert
3. เปลี่ยนตรง Normal >Color Dodge>
Filter>Blur>Gaussian เปลี่ยนเป็น 2 แล้ว OK เพิ่ม Layer
4. Shift>Ctrl>Alt>E
5. Image>Adjustment>Threshold เปลี่ยนเป็น 240
6. จากนั้นก็บันทึก
HDR-Toning
1. File>open เลือกรูปที่เราต้องการ
2. Image>Adjustment>HDR-Toning
3. ปรับเครื่องทุกอันตามต้องการแค่นี้ก็เสร็จแล้วค่ะ
ภาพสกีน , ภาพหลอก
1. File>open เลือกรูปที่เราต้องการ แล้วคลิก ok
2. จากนั้นกด Ctrl+J เพิ่ม Layer
3. Image>Mode>LabColor>Don’t Flatten
4. Image>Adjustment>Cuves ปรับตามต้องการ
5. จากนั้นก็ทำการบันทึก
การทำบาร์โค้ดแบบง่ายๆ
1. File>New ปรับขนาด 150/60/72
2. Background Contents เป็น Transparent
3. ไปที่แถบเครื่องมือ Paint Bucket Tool G
4. Filter>Noise>Add Noise เปลี่ยนเป็น 400
5. ติ๊กถูกที่ Monochromatic แล้วกด OK
6. Filter>Blur>Motion Blur เปลี่ยนบน 90
ล่าง 999 แล้วก็ OK
7. Filter>Sharpen>Sharpen Edges
8. แล้วเลือกเครื่องมือ Rectaugular Marquee Tool M
9. ตรงที่เราต้องการเพื่อให้เหมือนบาร์โค้ด
10. เทสีโดยไปที่เครื่องมือ Paint bucket tool
11. เลื่อกสีขาวเทสีลงไปพิมพ์ตัวเลขอะไรก็ได้ เช่น 213 3366 9587 เพี่อทำเป็นรหัส
การทำตาโตให้สวยงามด้วย Brush ขนตา
1. File>open เลือกรูปที่เราต้องการ
2. เลือกแถบเครื่องมือ Brush Tool คลิกมุมขวา Load Brush
3. เลือกคลิกที่ขนตาแล้วกด OK
4. Filter>Liquify เลือกเครื่องมือ Pucker Tool (S)
5. ปรับตาดำให้ใหญ่ขึ้นเพื่อให้ใส่ขนตาได้ง่ายๆ
6. เพิ่ม Layer ใส่ขนตา ซ้าย-ขวา-บน-ล่าง
7. Ctrl+E รวม Layer แล้ว Ctrl+S เพื่อบันทึกเสร็จแล้วค่ะ
1. File>open เลือกรูปที่ต้องการ
2. Ctrl+ J เพิ่ม Layer ปลดล็อค Backdroud โดยดับเบิ้ลคลิก
3. คลิก Layer ที่1 Image>Adjustments>Desaturate เป็นขาว-ดำ
4. เลือกแถบเครื่องมือ Magnetic Lasso Tool ครอบจุดที่เราต้องการแล้วกด Delete
5. Ctrl+D รวม Layer Ctrl+E เพื่อรวม เลเยอ
6. บันทึกค่ะ
การปรับรูปร่างให้ดูดีขึ้น
1. Fill>open เลือกรูปที่เราต้องการ แล้วคลิก ok
2. Filter>Liquify bเลือก show Mesh
3. คลิกเครื่องมือ Forward Warp Tool (W)
4. ถ้าวงกลมใหญ่ให้ปรับที่ Brush Size
5. แล้วนำมาวางหรือเลื่อนส่วนที่เราต้องการทำให้เล็กหรือใหญ่กว่าเดิม
6. ปรับส่วนเกินตามที่เราต้องการ
7. บันทึกขอมูลที่เราต้องการ โดยถ้าเราต้องการเก็บรูปนี้ไว้แก้ไขให้บันทึกเป็น ไฟล์นามสกุล .psd แต่ถ้าเราจะ บันทึกเป็นไฟล์รูปภาพให้บันทึกเป็นไฟล์ .jpeg
ภาพถ่ายเป็นลายเส้น
1. Fill>open เลือกรูปที่เราต้องการ แล้วคลิก ok
2. Ctrl+J แล้ว Image>Adjustment>Invert
3. เปลี่ยนตรง Normal >Color Dodge>
Filter>Blur>Gaussian เปลี่ยนเป็น 2 แล้ว OK เพิ่ม Layer
4. Shift>Ctrl>Alt>E
5. Image>Adjustment>Threshold เปลี่ยนเป็น 240
6. จากนั้นก็บันทึก
HDR-Toning
1. File>open เลือกรูปที่เราต้องการ
2. Image>Adjustment>HDR-Toning
3. ปรับเครื่องทุกอันตามต้องการแค่นี้ก็เสร็จแล้วค่ะ
ภาพสกีน , ภาพหลอก
1. File>open เลือกรูปที่เราต้องการ แล้วคลิก ok
2. จากนั้นกด Ctrl+J เพิ่ม Layer
3. Image>Mode>LabColor>Don’t Flatten
4. Image>Adjustment>Cuves ปรับตามต้องการ
5. จากนั้นก็ทำการบันทึก
การทำบาร์โค้ดแบบง่ายๆ
1. File>New ปรับขนาด 150/60/72
2. Background Contents เป็น Transparent
3. ไปที่แถบเครื่องมือ Paint Bucket Tool G
4. Filter>Noise>Add Noise เปลี่ยนเป็น 400
5. ติ๊กถูกที่ Monochromatic แล้วกด OK
6. Filter>Blur>Motion Blur เปลี่ยนบน 90
ล่าง 999 แล้วก็ OK
7. Filter>Sharpen>Sharpen Edges
8. แล้วเลือกเครื่องมือ Rectaugular Marquee Tool M
9. ตรงที่เราต้องการเพื่อให้เหมือนบาร์โค้ด
10. เทสีโดยไปที่เครื่องมือ Paint bucket tool
11. เลื่อกสีขาวเทสีลงไปพิมพ์ตัวเลขอะไรก็ได้ เช่น 213 3366 9587 เพี่อทำเป็นรหัส
การทำตาโตให้สวยงามด้วย Brush ขนตา
1. File>open เลือกรูปที่เราต้องการ
2. เลือกแถบเครื่องมือ Brush Tool คลิกมุมขวา Load Brush
3. เลือกคลิกที่ขนตาแล้วกด OK
4. Filter>Liquify เลือกเครื่องมือ Pucker Tool (S)
5. ปรับตาดำให้ใหญ่ขึ้นเพื่อให้ใส่ขนตาได้ง่ายๆ
6. เพิ่ม Layer ใส่ขนตา ซ้าย-ขวา-บน-ล่าง
7. Ctrl+E รวม Layer แล้ว Ctrl+S เพื่อบันทึกเสร็จแล้วค่ะ
วันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2553
แต่งรูปคนธรรมดาให้ร้องไห้ได้โดย Photoshop
1. เปิดรูปที่ต้องการค่ะ โดยไปที่ File แล้วเลืกที่ Open เลือกรูปภาพที่ต้องการ แล้วกด OK
2. เลือกที่ Brush Tool
3. สร้าง layer ใหม่ขึ้นมา
4.วาดรูดน้ำตาลงบนใบหน้า
5. ตั้งค่า Fille = 0%
จะได้ตามด้านล่างค่ะ
6. double click ที่ layer เลือก layer style เลือก Bevel and Emboss
แล้วจะปรากฏหน้าต้างแบบนี้ จากนั้นเรากำหนดรายละเอียดตามนี้ได้เลยค่ะ
จากนั้น ตอบ OK ก็จะได้น้ำตาบนหน้าดังรูปนี้นะค่ะ
2. เลือกที่ Brush Tool
3. สร้าง layer ใหม่ขึ้นมา
4.วาดรูดน้ำตาลงบนใบหน้า
5. ตั้งค่า Fille = 0%
จะได้ตามด้านล่างค่ะ
6. double click ที่ layer เลือก layer style เลือก Bevel and Emboss
แล้วจะปรากฏหน้าต้างแบบนี้ จากนั้นเรากำหนดรายละเอียดตามนี้ได้เลยค่ะ
จากนั้น ตอบ OK ก็จะได้น้ำตาบนหน้าดังรูปนี้นะค่ะ
วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2553
ส่งงานค่ะ
$thai_month_arr=array(
"0"=>"",
"1"=>"มกราคม",
"2"=>"กุมภาพันธ์",
"3"=>"มีนาคม",
"4"=>"เมษายน",
"5"=>"พฤษภาคม",
"6"=>"มิถุนายน",
"7"=>"กรกฎาคม",
"8"=>"สิงหาคม",
"9"=>"กันยายน",
"10"=>"ตุลาคม",
"11"=>"พฤศจิกายน",
"12"=>"ธันวาคม"
);
//$now_month="2008-11-01";
$now_month=date("Y-m-01");
$mk_time=strtotime($now_month);
$day_no=date("t",$mk_time);
$wan_no=date("w",$mk_time);
$box_day=$day_no+$wan_no;
$rows_week=ceil($box_day/7);
$total_box=$rows_week*7;
function get_day($no_day,$wan_no,$day_no){
$wan_tee=$no_day-$wan_no;
if($wan_tee<=0){
$wan_tee="__";
return $wan_tee;
}else{
if($wan_tee<=$day_no){
return str_pad($wan_tee,2,"0",STR_PAD_LEFT);
}else{
return "__";
}
}
}
?>
"; }?>
n"; }?>
ตัวอย่าง
พฤศจิกายน 2551
อา จ อ พ พฤ ศ ส
__ __ __ __ __ __ 01
02 03 04 05 06 07 08
09 10 11 12 13 14 15
16 17 18 19 20 21 22
23 24 25 26 27 28 29
30 __ __ __ __ __ __
"0"=>"",
"1"=>"มกราคม",
"2"=>"กุมภาพันธ์",
"3"=>"มีนาคม",
"4"=>"เมษายน",
"5"=>"พฤษภาคม",
"6"=>"มิถุนายน",
"7"=>"กรกฎาคม",
"8"=>"สิงหาคม",
"9"=>"กันยายน",
"10"=>"ตุลาคม",
"11"=>"พฤศจิกายน",
"12"=>"ธันวาคม"
);
//$now_month="2008-11-01";
$now_month=date("Y-m-01");
$mk_time=strtotime($now_month);
$day_no=date("t",$mk_time);
$wan_no=date("w",$mk_time);
$box_day=$day_no+$wan_no;
$rows_week=ceil($box_day/7);
$total_box=$rows_week*7;
function get_day($no_day,$wan_no,$day_no){
$wan_tee=$no_day-$wan_no;
if($wan_tee<=0){
$wan_tee="__";
return $wan_tee;
}else{
if($wan_tee<=$day_no){
return str_pad($wan_tee,2,"0",STR_PAD_LEFT);
}else{
return "__";
}
}
}
?>
อา จ อ พ พฤ ศ ส
"; }?>
n"; }?>
ตัวอย่าง
พฤศจิกายน 2551
อา จ อ พ พฤ ศ ส
__ __ __ __ __ __ 01
02 03 04 05 06 07 08
09 10 11 12 13 14 15
16 17 18 19 20 21 22
23 24 25 26 27 28 29
30 __ __ __ __ __ __
วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
คำศัพท์ ค่ะ
1. VARCHAR (ย่อมาจาก Variable Character Field อ่านว่า วาร์คาร์ หรือ วาร์ชาร์) หมายถึงกลุ่มข้อมูลตัวอัขระที่ไม่สามารถระบุความยาวได้ คำนี้มักใช้เป็น ชนิดข้อมูลในระบบการจักการฐานข้อมูล ชนิดข้อมูลประเภท varchar สามารถเก็บข้อมูลตัวอักขระขนาดเท่าใดก็ได้ที่ไม่เกินความยาวที่จำกัดไว้ การจำกัดความยาวก็แตกต่างกันออกไปในแต่ละฐานข้อมูล
2. TINYINT : สำหรับเก็บข้อมูลชนิดตัวเลขที่มีขนาด 8 บิต ข้อมูลประเภทนี้เราสามารถกำหนดเพิ่มเติมในส่วนของ "แอตทริบิวต์" ได้ว่าจะเลือกเป็น
3. TEXT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร เช่นเดียวกับ TINYTEXT แต่สามารถเก็บได้มากขึ้น โดยสูงสุดคือ 65,535 ตัวอักษร หรือ 64KB เหมาะสำหรับเก็บข้อมูลพวกเนื้อหาต่างๆ ที่ยาวๆ
4. DATE : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ โดยเก็บได้จาก 1 มกราคม ค.ศ. 1000 ถึง 31 ธันวาคม ค.ศ. 9999 โดยจะแสดงผลในรูปแบบ YYYY-MM-DD
5. SMALLINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 16 บิต จึงสามารถเก็บค่าได้ตั้งแต่ -32768 ถึง 32767 (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 65535 (ในกรณี UNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ TINYINT
6. MEDIUMINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 24 บิต นั่นก็หมายความว่าสามารถเก็บข้อมูลตัวเลขได้ตั้งแต่ -8388608 ไปจนถึง 8388607 (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 16777215 (ในกรณีที่เป็น UNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ TINYINT
7. INT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 32 บิต หรือสามารถเก็บข้อมูลได้ตั้งแต่ -2147483648 ไปจนถึง 2147483647 ครับ (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 4294967295 (ในกรณีที่เป็นUNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ TINYINT
8. BIGINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 64 บิต สามารถเก็บข้อมูลได้ตั้งแต่ -9223372036854775808 ไปจนถึง 9223372036854775807 เลยทีเดียว (แบบคิดเครื่องหมาย)
9. FLOAT : ที่กล่าวถึงไปทั้งหมด ในตระกูล INT นั้นจะเป็นเลขจำนวนเต็ม หากเราบันทึกข้อมูลที่มีเศษทศนิยม มันจะถูกปัดทันที ดังนั้นหากต้องการจะเก็บค่าที่เป็นเลขทศนิยม ต้องเลือกชนิดขอฟิลด์เป็น FLOAT โดยจะเก็บข้อมูลแบบ 32 บิต
10. DOUBLE : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขทศนิยม เช่นเดียวกับ FLOAT แต่มีขนาดเป็น 64 บิต สามารถเก็บได้ตั้งแต่ -1.7976931348623157E+308 ถึง -2.2250738585072014E-308, 0 และ 2.2250738585072014E-308 ถึง 1.7976931348623157E+308
11. DECIMAL : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขทศนิยม เช่นเดียวกับ FLOAT แต่ใช้กับข้อมูลที่ต้องการความละเอียดและถูกต้องของข้อมูลสูง
12. DATETIME : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ และเวลา โดยจะเก็บได้ตั้งแต่ 1 มกราคม ค.ศ. 1000 เวลา 00:00:00 ไปจนถึง 31 ธันวาคม ค.ศ. 9999 เวลา 23:59:59 โดยรูปแบบการแสดงผล เวลาที่ทำการสืบค้น (query) ออกมา จะเป็น YYYY-MM-DD HH:MM:SS
13. TIMESTAMP : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ และเวลาเช่นกัน แต่จะเก็บในรูปแบบของ YYYYMMDDHHMMSS หรือ YYMMDDHHMMSS หรือ YYYYMMDD หรือ YYMMDD แล้วแต่ว่าจะระบุค่า M เป็น 14, 12, 8
14. TIME : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทเวลา มีค่าได้ตั้งแต่ -838:59:59 ไปจนถึง 838:59:59 โดยจะแสดงผลออกมาในรูปแบบ HH:MM:SS
15. YEAR : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทปี ในรูปแบบ YYYY หรือ YY แล้วแต่ว่าจะเลือก 2 หรือ 4 (หากไม่ระบุ จะถือว่าเป็น 4 หลัก) โดยหากเลือกเป็น 4 หลัก จะเก็บค่าได้ตั้งแต่ ค.ศ. 1901 ถึง 2155 แต่หากเป็น 2 หลัก จะเก็บตั้งแต่ ค.ศ. 1970 ถึง 2069
16. CHAR : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร แบบที่ถูกจำกัดความกว้างเอาไว้คือ 255 ตัวอักษร ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้เหมือนกับ VARCHAR หากทำการสืบค้นโดยเรียงตามลำดับ
17. TINYBLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี ได้แก่ ไฟล์ข้อมูลต่างๆ, ไฟล์รูปภาพ, ไฟล์มัลติมีเดีย เป็นต้น คือไฟล์อะไรก็ตามที่อัพโหลดผ่านฟอร์มอัพโหลดไฟล์ในภาษา HTML โดย TINYBLOB นั้นจะมีเนื้อที่ให้เก็บข้อมูลได้ 256 ไบต์
18. TINYTEXT : ในกรณีที่ข้อความยาวๆ หรือต้องการที่จะค้นหาข้อความ โดยอาศัยฟีเจอร์ FULL TEXT SEARCH ของ MySQL เราอาจจะเลือกที่จะไม่เก็บข้อมูลลงในฟิลด์ประเภท VARCHAR ที่มีข้อจำกัดแค่ 256 ตัวอักษร แต่เราจะเก็บลงฟิลด์ประเภท TEXT แทน โดย TINYTEXT นี้ จะสามารถเก็บข้อมูลได้ 256 ตัวอักษร
19. BLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี เช่นเดียวกับ TINYBLOB แต่สามารถเก็บข้อมูลได้ 64KB
20. MEDIUMBLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี เช่นเดียวกับ TINYBLOB แต่เก็บข้อมูลได้ 16MB
21. MEDIUMTEXT : เก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร เช่นเดียวกับ TINYTEXT แต่เก็บข้อมูลได้ 16,777,215 ตัวอักษร
22. LONGBLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี เช่นเดียวกับ TINYBLOB แต่เก็บข้อมูลได้ 4GB
23. LONGTEXT : เก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร เช่นเดียวกับ TINYTEXT แต่เก็บข้อมูลได้ 4,294,967,295 ตัวอักษร24. SET : สำหรับเก็บข้อมูลที่เป็นกลุ่มของข้อมูลที่ยอมให้เลือกได้ 1 ค่าหรือหลายๆ ค่า ซึ่งสามารถกำหนดได้ถึง 64 ค่า
25. ENUM(Enumeration) >> หมายถึงเซตของข้อมูลชุดหนึ่งที่มีจำนวนสมาชิกที่กำหนดไว้แน่นอนและทราบค่าทุกตัว ซึ่งมักจะเป็นข้อมูลที่มีลักษณะคงที่
26. BINARY ระบบเลขที่มีสัญลักษณ์เพียงสองตัวคือ 0 (ศูนย์) กับ 1 (หนึ่ง) บางครั้งอาจหมายถึงการที่มีโอกาสเลือกได้เพียง 2 ทาง เช่น ปิดกับเปิด, ไม่ใช่กับใช่, เท็จกับจริง, ซ้ายกับขวา เป็นต้น
27. BOOL คือข้อมูลที่มีค่าเป็นจริง (True) หรือเท็จ (False)
28. VARBINARY คือ มีลักษณะการเก็บคล้าย Varcha คือการเก็บข้อมูลตามที่รับมาจริงเท่านั้น มีขนาดสูงสุดมากถึง 8000 ไบต์
2. TINYINT : สำหรับเก็บข้อมูลชนิดตัวเลขที่มีขนาด 8 บิต ข้อมูลประเภทนี้เราสามารถกำหนดเพิ่มเติมในส่วนของ "แอตทริบิวต์" ได้ว่าจะเลือกเป็น
3. TEXT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร เช่นเดียวกับ TINYTEXT แต่สามารถเก็บได้มากขึ้น โดยสูงสุดคือ 65,535 ตัวอักษร หรือ 64KB เหมาะสำหรับเก็บข้อมูลพวกเนื้อหาต่างๆ ที่ยาวๆ
4. DATE : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ โดยเก็บได้จาก 1 มกราคม ค.ศ. 1000 ถึง 31 ธันวาคม ค.ศ. 9999 โดยจะแสดงผลในรูปแบบ YYYY-MM-DD
5. SMALLINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 16 บิต จึงสามารถเก็บค่าได้ตั้งแต่ -32768 ถึง 32767 (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 65535 (ในกรณี UNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ TINYINT
6. MEDIUMINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 24 บิต นั่นก็หมายความว่าสามารถเก็บข้อมูลตัวเลขได้ตั้งแต่ -8388608 ไปจนถึง 8388607 (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 16777215 (ในกรณีที่เป็น UNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ TINYINT
7. INT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 32 บิต หรือสามารถเก็บข้อมูลได้ตั้งแต่ -2147483648 ไปจนถึง 2147483647 ครับ (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 4294967295 (ในกรณีที่เป็นUNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ TINYINT
8. BIGINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 64 บิต สามารถเก็บข้อมูลได้ตั้งแต่ -9223372036854775808 ไปจนถึง 9223372036854775807 เลยทีเดียว (แบบคิดเครื่องหมาย)
9. FLOAT : ที่กล่าวถึงไปทั้งหมด ในตระกูล INT นั้นจะเป็นเลขจำนวนเต็ม หากเราบันทึกข้อมูลที่มีเศษทศนิยม มันจะถูกปัดทันที ดังนั้นหากต้องการจะเก็บค่าที่เป็นเลขทศนิยม ต้องเลือกชนิดขอฟิลด์เป็น FLOAT โดยจะเก็บข้อมูลแบบ 32 บิต
10. DOUBLE : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขทศนิยม เช่นเดียวกับ FLOAT แต่มีขนาดเป็น 64 บิต สามารถเก็บได้ตั้งแต่ -1.7976931348623157E+308 ถึง -2.2250738585072014E-308, 0 และ 2.2250738585072014E-308 ถึง 1.7976931348623157E+308
11. DECIMAL : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขทศนิยม เช่นเดียวกับ FLOAT แต่ใช้กับข้อมูลที่ต้องการความละเอียดและถูกต้องของข้อมูลสูง
12. DATETIME : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ และเวลา โดยจะเก็บได้ตั้งแต่ 1 มกราคม ค.ศ. 1000 เวลา 00:00:00 ไปจนถึง 31 ธันวาคม ค.ศ. 9999 เวลา 23:59:59 โดยรูปแบบการแสดงผล เวลาที่ทำการสืบค้น (query) ออกมา จะเป็น YYYY-MM-DD HH:MM:SS
13. TIMESTAMP : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ และเวลาเช่นกัน แต่จะเก็บในรูปแบบของ YYYYMMDDHHMMSS หรือ YYMMDDHHMMSS หรือ YYYYMMDD หรือ YYMMDD แล้วแต่ว่าจะระบุค่า M เป็น 14, 12, 8
14. TIME : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทเวลา มีค่าได้ตั้งแต่ -838:59:59 ไปจนถึง 838:59:59 โดยจะแสดงผลออกมาในรูปแบบ HH:MM:SS
15. YEAR : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทปี ในรูปแบบ YYYY หรือ YY แล้วแต่ว่าจะเลือก 2 หรือ 4 (หากไม่ระบุ จะถือว่าเป็น 4 หลัก) โดยหากเลือกเป็น 4 หลัก จะเก็บค่าได้ตั้งแต่ ค.ศ. 1901 ถึง 2155 แต่หากเป็น 2 หลัก จะเก็บตั้งแต่ ค.ศ. 1970 ถึง 2069
16. CHAR : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร แบบที่ถูกจำกัดความกว้างเอาไว้คือ 255 ตัวอักษร ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้เหมือนกับ VARCHAR หากทำการสืบค้นโดยเรียงตามลำดับ
17. TINYBLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี ได้แก่ ไฟล์ข้อมูลต่างๆ, ไฟล์รูปภาพ, ไฟล์มัลติมีเดีย เป็นต้น คือไฟล์อะไรก็ตามที่อัพโหลดผ่านฟอร์มอัพโหลดไฟล์ในภาษา HTML โดย TINYBLOB นั้นจะมีเนื้อที่ให้เก็บข้อมูลได้ 256 ไบต์
18. TINYTEXT : ในกรณีที่ข้อความยาวๆ หรือต้องการที่จะค้นหาข้อความ โดยอาศัยฟีเจอร์ FULL TEXT SEARCH ของ MySQL เราอาจจะเลือกที่จะไม่เก็บข้อมูลลงในฟิลด์ประเภท VARCHAR ที่มีข้อจำกัดแค่ 256 ตัวอักษร แต่เราจะเก็บลงฟิลด์ประเภท TEXT แทน โดย TINYTEXT นี้ จะสามารถเก็บข้อมูลได้ 256 ตัวอักษร
19. BLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี เช่นเดียวกับ TINYBLOB แต่สามารถเก็บข้อมูลได้ 64KB
20. MEDIUMBLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี เช่นเดียวกับ TINYBLOB แต่เก็บข้อมูลได้ 16MB
21. MEDIUMTEXT : เก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร เช่นเดียวกับ TINYTEXT แต่เก็บข้อมูลได้ 16,777,215 ตัวอักษร
22. LONGBLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี เช่นเดียวกับ TINYBLOB แต่เก็บข้อมูลได้ 4GB
23. LONGTEXT : เก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร เช่นเดียวกับ TINYTEXT แต่เก็บข้อมูลได้ 4,294,967,295 ตัวอักษร24. SET : สำหรับเก็บข้อมูลที่เป็นกลุ่มของข้อมูลที่ยอมให้เลือกได้ 1 ค่าหรือหลายๆ ค่า ซึ่งสามารถกำหนดได้ถึง 64 ค่า
25. ENUM(Enumeration) >> หมายถึงเซตของข้อมูลชุดหนึ่งที่มีจำนวนสมาชิกที่กำหนดไว้แน่นอนและทราบค่าทุกตัว ซึ่งมักจะเป็นข้อมูลที่มีลักษณะคงที่
26. BINARY ระบบเลขที่มีสัญลักษณ์เพียงสองตัวคือ 0 (ศูนย์) กับ 1 (หนึ่ง) บางครั้งอาจหมายถึงการที่มีโอกาสเลือกได้เพียง 2 ทาง เช่น ปิดกับเปิด, ไม่ใช่กับใช่, เท็จกับจริง, ซ้ายกับขวา เป็นต้น
27. BOOL คือข้อมูลที่มีค่าเป็นจริง (True) หรือเท็จ (False)
28. VARBINARY คือ มีลักษณะการเก็บคล้าย Varcha คือการเก็บข้อมูลตามที่รับมาจริงเท่านั้น มีขนาดสูงสุดมากถึง 8000 ไบต์
วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552
วิธิการติดตังโปรแกรม Appserv 2.5.9
เข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมที่ http://kitt.kvc.ac.th เข้าไปที่ ดาวโหลดน์ แล้วคลิกที่โปรแกรม Appserv 2.5.9 มันจะขึ้นหน้าจอ File download แล้วจากนั้นคลิกที่ Save ดูเส้นทางว่าจะทำการ Save ไว้ที่ไหน จากนั้นรอจนกว่าโปรแกรมจะ ดาวโหลดน์เสร็จ เมื่อเสร็จแล้ว ไปดับเบิลคลิกที่เราเซป มาจะบอกว่า Appserv ที่เราทำการโหลดมา แล้วจากนั้นจะมีกรอบขึ้นมาว่า Welcome to the appserv 2.5.9 แล้วคลิกที่คำว่า Next แล้วจะมีหน้าจอเกี่ยวกับลิขสิธ ให้คลิกที่คำว่า I Agree แล้วมันจะถามเราว่าเราจะเก็บไว้ไหนแต่มันจะเก็บไว้ที่ได้ C โดยอัตโนมัติ แล้วคลิกที่คำว่า Next จากนั้นมันจะถามว่าจะติดตั้ง package นี้มั๊ย เราก็เลือกทั้งหมดแล้วคลิกที่คำว่า Next แล้วมันจะถามเกี่ยวกับ เว็บเซฟเวอร์ โดยให้เราระบุช่องแรกเป็น localhost ช่องที่สองคือ Admin ส่วนช่องที่สามให่กำหนดเป็น 80 แล้วคลิกที่ Next จากนั้นมันจะให้เรากรอกระหัสผ่านโดยวิธีการกรอกคือ ใส่ตัวเลขหรือตัวอักษรที่เหมือนกันเท่านั้น หลังจากนั้นก็คลิกที่ Install เสร็จแล้วก็คลิกที่ Finish กฌจะเป็นการเสร็จสิ้นวิธีการติดตั้งโปรแกรม
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)